ปงถ้ำดอยเดียวเที่ยว 4 จังหวัด
วังทอง อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่มีความอัศจรรย์ทางธรรมชาติที่งดงาม มีวัฒนธรรมประเพณีที่เก่าแก่ที่ควรอนุรักษ์และสืบทอดไว้ มียอดดอยสูงเสียดฟ้า ลึกลับน่าค้นหา แฝงด้วยความน่าสะพรึงกลัวในยามค่ำคืนและในคราวเดียวกันมีความงดงามของทิวทัศน์ ผสมผสานกับวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวพุทธ ที่แห่งนั้นคือ บ้านปงถ้ำ ดอยเดียวเที่ยว 4 จังหวัด
ความเป็นมา ของหมู่บ้านปงถ้ำ-บ้านปงทอง ปรากฏตามคำเล่าขานจากปากสู่ปากคนสู่คน รุ่นสู่รุ่นว่า แรกเริ่มเดิมทีพื้นที่ราบเป็นแอ่งกระทะ หมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยแมกไม้รุกขชาตินานาพันธุ์ มีเหล่าสิงห์ เสือ และสัตว์นานาชนิดมากมายเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดของประเทศแห่งหนึ่ง เป็นป่าที่มีความงดงาม และแล้วก็ได้มีกลุ่มบรรพบุรุษ 5 ครัวเรือน 4 สายสกุล (ปัจจุบันเป็นนามสกุลที่มีประชากรมากที่สุดในหมู่บ้านปงถ้ำ- บ้านปงทอง) ซึ่งเดินทางมาจากมาจากอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ซึ่งห่างจากที่นี่ไปประมาณ 54 กิโลเมตร อันประกอบด้วยครอบครัว
1) นายปุ๊ด นางปุ๊ด ธงชัย
2) นายแสน ยาวิใจ
3) นางเหน่งแก้ว จิตมุง
4) นายสาร นางแปง จิตมุง
5)ต้าว (ท้าว) สม ซองดี (คำว่า ต้าว น่าจะเป็นผู้บริหารหรือผู้นำหรือข้าราชการในยุคนั้น)
6) นายวงค์ นางปี๋ แหลมมาก
และอยู่มาไม่นานคิดว่า น่ามีการบอกต่อกันว่าที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก มาอยู่ร่วมกันทำมาหากินด้วยกัน ก็มีบรรพบุรุษของหมู่บ้านมาเพิ่มสมทบตั้งรากฐานในหมู่บ้านเพิ่มอีก 5 ครอบครัว ซึ่งกลุ่มนี้มาจากอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา เรียกว่าเดินข้ามดอยหนอกมาถึงที่นี่เพื่อสร้างรากฐานครอบครัวทำมาหากิน คือ
1) ปู่น้อยปัญญา ย่าปัน ซองดี
2) ปู่นุ้น ซองดี
3) ปู้โม้ ย่าผัด ซองดี
4) ปู่ใจ ซองดี
5) ปู่หนานพรม ย่าหล้า ซองดี
และในปี พ.ศ. 2385 ก็มีชาวบ้านมาจากบ้านเมืองตึง 1 ครอบครัว ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านห่างไปประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร คือ ปู่หมู ย่าดี จานเก่า และมาจากบ้านแม่ตา อีก 1 ครอบครัว คือ ปู่ถึง ย่าหล้า มั่งมูล การเข้าเพิ่มของสมาชิกหมู่บ้านนั้น ทำให้มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นตามลำดับรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน กล่าวได้ที่เหมือนทุกคนในหมู่บ้านเป็นเครือพี่น้องกันทุกคน
หมู่บ้านปงถ้ำ มีความเจริญของหมู่บ้านและวิถีชีวิตของผู้คนตามลำดับ แต่ว่าได้ขึ้นอยู่ในเขตการปกครองของบ้านเมืองตำบลวังเหนือ ระหว่าง พ.ศ. 2382 - พ.ศ. 2515 และขึ้นอยู่ในเขตการปกครองของบ้านเมืองตำบลวังใต้ ระหว่าง พ.ศ. 2516 - พ.ศ. 2531 ขึ้นอยู่ในเขตการปกครองของบ้านเมืองตำบลวังทอง พ.ศ. 2532 - ปัจจุบัน
บ้านปงถ้ำจำต้องแยกหมู่บ้านเป็น 2 หมู่บ้าน เพราะจำนวนประชากรเพิ่มในแต่ละปี ในปี พ.ศ. 2541 ทางรัฐบาลได้ขึ้นทะเบียนราษฎร์คือ บ้านปงถ้ำ หมู่ 3 และบ้านปงทอง หมู่ 7 ปัจจุบันบ้านปงถ้ำหมู่ 3 มีจำนวน 240 หลังคาเรือน มีประชากรทั้งหมด 749 คน ชาย 395 คน หญิง 354 คน มีผู้ใหญ่บ้านที่ปกครองดูแลพี่ชาวบ้านปงถ้ำ ส่วนหมู่บ้านปงทอง หมู่ 7 นั้น ได้แยกตามการปกครองขยายหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2541 และมีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน บ้านปงทองขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม2541 มีจำนวนประชากร 254 หลังคาเรือน มีประชากร ทั้งหมด 820 คน ชาย 421 คน หญิง 399 คน ส่วนการบริหารและการเป็นหมู่ก็เหมือนบ้านปงถ้ำ เพราะถือว่าเสมือนหมู่บ้านเดียวกันบ้านพี่บ้านน้อง ในการเป็นอยู่ทำมาหากิน หรือแม้กระทั้งการทำบุญสร้างกุศลก็มีวัดเดียวกัน ทั้งสองหมู่บ้านมีกิจกรรมร่วมกันไม่ว่าประเพณีต่างๆ เช่น ประเพณีสงกรานต์ (ปี๋ใหม่เมือง) ประเพณีสรงน้ำพระธาตุ ประเพณีบั้งไฟ ประเพณีตานก๋วยสลาก ประเพณีตานข้าวใหม่ เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่บ้านทั้งสองมีโรงเรียน 1 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านปงถ้ำ และมีสถานีสาธารณสุข (อนามัย) 1 แห่ง มีวัด 1 วัด คือวัดปงถ้ำ มีผู้ใหญ่บ้านที่บริหารตามอำนาจรัฐนั่น มี 1 ท่าน บ้านปงถ้ำ-บ้านปงทอง ก่อตั้งเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2382 นับถึงวันนี้ (พ.ศ. 2559) หมู่บ้านปงถ้ำ-บ้านปงทองนี้ มีอายุ 177 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อสมัยรัชกาลของพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า
มีข้อสันนิษฐานว่าถ้ำเหล่านี้เดิมน่าจะเป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระเถระผู้ทรงศีลนักพรตผู้ปฏิบัติในสมัยก่อน และจุดเด่นอีกจุดหนึ่งคือแนวด้านเทือกเขาตั้งอยู่ด้าน ตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่บ้าน คือ ดอยหนอก ถือเป็นมรดกทางธรรมชาติร่วมกันระหว่างจังหวัดลำปาง จังหวัดพะเยา และจังหวัดเชียงราย โดยเมื่อเดินทางขึ้นถึงจุดสูงสุดของดอยหนอก นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นพื้นที่ครอบคลุมถึง 4 จังหวัด ทั้ง ลำปาง พะเยา เชียงราย และเชียงใหม่ ตามแนวภูเขาผีปันน้ำหรืออุทยานแห่งชาติดอยหลวง โดยมีส่วนหนึ่งของภูเขานี้ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาอย่างงดงาม ซึ่งมีชื่อว่าดอยหนอก เป็นดอยสูงสุดบนสันดอยหลวง ใครที่เดินทางสายพะเยา-อำเภอวังเหนือ เชียงใหม่ เป็นประจำ ก็จะคุ้นเคยกับดอยนี้เป็นอย่างดี เพราะมีลักษณะนูนขึ้นมาคล้ายโหนกสันหลังวัว มองเห็นได้ชัดเจนแต่ไกลบนยอดดอยหนอก มีผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาน่าจะเป็นชาวบ้านปงถ้ำ-บ้านปงทอง ได้สร้าง
พระธาตุเพื่อสักการะเป็นพุทธบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลเมื่อขึ้นถึงยอดดอยแล้วก็จะหายเหนื่อยเพราะความงดงามของธรรมชาติสามารถดูทิวทัศน์ได้ถึง 360 องศา บวกกับอากาศที่บริสุทธิ์ไม่ว่าจะมองมาทิศตะวันตก ชมพระอาทิตย์ตกดินพร้อมกับชมอำเภอวังเหนือ อำเภอเล็ก ๆ ที่อยู่ใต้ภูเขาแห่งนี้ “ดอยมีหนอก” นอกจากจะไม่ปกติแล้ว ยังถือเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ เล็กๆ ของธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจ และชวนให้ไปพิสูจน์สัมผัสเป็นอย่างยิ่ง สำหรับดอยมีหนอกที่ว่านี้ก็คือ “ดอยหนอก” อีกหนึ่งดอยสูงเสียดฟ้าแห่งภาคเหนือที่มีรูปพรรณสัณฐานแปลกประหลาดเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หรือจะมองไปทางทิศตะวันออก ดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับดูบรรยากาศทางฝั่งพะเยาดูตัวเมืองพะเยาและกว๊านพะเยา ส่วนในหมู่บ้านมีวัด ศาสนสถานทางพระพุทธศาสนาคือวัดปงถ้ำ มีพระบรมธาตุเจดีย์สัมพุทธชยันตี อนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ 2,600 ปี ของพระพุทธเจ้า และมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือหลวงพ่อวัดปงถ้ำ มีอายุร้อยกว่าปี มีมาตั้งแต่สมัยสร้างวัดใน พ.ศ. 2444
Post a Comment