หากมนุษย์ถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า การศึกษาจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ เพื่อเสริมสร้างสติปัญญาให้มีความรู้ ความสามารถเป็นแนวทางในการเลี้ยงชีพที่สุจริต เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชน พัฒนาประเทศชาติ เป็นพลเมืองที่มีคุณค่าของประเทศชาติ ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในทุกๆด้าน รัฐจึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาด้านการศึกษาของชาติ รวมถึงการพัฒนาองค์ประกอบต่างๆที่เป็นส่วนสนับการดำเนินกิจกรรมทางการศึกษาเป็นลำดับต้นๆ
กระแสของโลกในทุกแขนงมีวิวัฒนาการแปรเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา การศึกษาก็เช่นกันนับตั้งแต่ Education 2.0 (ปี 2000 – 2010) ที่ทุกกำหนดช่วงระยะเวลาพัฒนาการในทุกๆ 10 ปีได้ถูกกำหนดขึ้น (Education 1.0 ไม่ได้กำหนดไว้) และอีกไม่นานเราจะก้าวเข้าสู่ยุค Education 4.0 ในปี 2020 (พ.ศ.2563)
ตลอดระยะเวลาก่อให้เกิดทฤษฎี แนวคิด หรือรูปแบบการศึกษา การเรียนรู้มากมาย แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ เกือบทุกรูปแบบต่างก็ก้าวเข้าสู่เส้นทางดิจิตัล บนช่องทางออนไลน์แทบทั้งสิ้น และบนเส้นทางออนไลน์ก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้หลากหลายแนวทาง ผ่านเทคโนโลยีต่างๆบนเส้นทางของ Mobile Device
จากวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี ทางการสื่อสาร การพัฒนาโครงข่าย ส่งผลให้การเชื่อมโยง การติดต่อสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูลต่างๆที่อยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงด้วยความรวดเร็ว
นับตั้งแต่ http://info.cern.ch เปิดตัวครั้งแรก เมื่อ 6 สิงหาคม 2534 โดย เซอร์ทิโมที จอห์น เบอร์เนิร์ส-ลี (Sir Timothy John Berners-Lee) หรือที่รู้จักในนาม เซอร์ทิม ผู้คิดและพัฒนาระบบ เวิลด์ไวด์เว็บ (www) เป็นคนแรกของโลก แต่การสร้างข้อมูลเว็บในระยะแรก ต้องใช้บุคคลที่มีความสามารถ ต้นทุนที่ค่อนข้างสูง กระทำโดยหน่วยงานของรัฐ สถานศึกษาและหน่วยงานองค์กรขนาดใหญ่ แต่ด้วยวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมา ผนวกรวมกับเทคโนโลยีของ Social media เกื้อหนุนให้การสร้างหน้าเว็บ ไม่ใช่เรื่องยาก ทำให้อัตราการเติบโตของเอกสารเว็บมีสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดธุรกิจผ่านข้อมูลหลากหลายประเภท ทั้งจริง บิดเบือนและปลอม การผลิตข้อมูลเท็จเพื่อสร้างความสนุก ความปั่นป่วนหรือมุ่งหมายทรัพย์ เป็นเรื่องที่ทั้งผู้ใช้งานเครือข่ายต้องประสบปัญหาเสมอมา ทั่วโลกต่างประสบปัญหาข้อมูลซ้ำซ้อน ข้อมูลเท็จ ข้อมูลลวง ข้อมูลคลาดเคลื่อน หรือข้อมูลไม่ครบ ส่งผลให้การอ้างอิง การค้นหาข้อมูล หรือข่าวสาร ผ่านกลไกการค้นหาบนเว็บ เริ่มผิดเพี้ยน เนื่องในวาระครบรอบ 28 ปีของ www ที่ผ่านมา เซอร์ทิโมที จอห์น เบอร์เนิร์ส-ลี ได้ส่งสารเรียกร้องว่า "สื่อสังคมออนไลน์และเสิร์ชเอ็นจิ้น ต้องสนับสนุนความพยายามต่อสู้(ข้อมูล)ข่าวลวง-ข่าวปลอมต่างๆ ด้วย"
จากความมือของ Google Inc. แคลิฟอรืเนีย ได้มอบ Account จำนวน 3 ล้าน ให้กับสำนักงาน กศน. เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการศึกษา โดยสถาบันการศึกษาทางไกลรับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารจัดการในการใช้ประโยชน์และพัฒนาระบบการจัดการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับสถานศึกษาเครือข่าย Account ทั้ง 3 ล้าน เป็นชุด G Suite for Education ภายใต้โดเมน @dei.ac.th ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงทุกผลิตภัณฑ์ ทุก Application สำหรับสนับสนุนงานการศึกษาที่เป็นของ Google ภายใน Account เดียว ผลการดำเนินการการจัดการเรียนการสอนห้องเรียนออนไลน์ด้วย G Suite for Education ในระยะแรกพบว่า นอกจากจะเป็นชุดเครื่องมือในการบริหารจัดการชั้นเรียนออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว G Suite for Education ยังสามารถนำมาสร้างสรรเครือข่ายการเรียนรู้ เครือข่ายแหล่งเรียนรู้จากทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย (นำเรื่องราว นำสาระเนื้อหาที่หลากหลาย มีคุณค่าต่อการเรียนรู้) โดยคนของ กศน. ที่อยู่ในทุกพื้นที่ ทุกตำบล ให้มีความรู้ ส่งเสริมศักยภาพให้เป็นนักถ่ายทอดผู้สร้างสรรเส้นเรื่องราวจากพื้นที่นำไปสู่การสร้างสรรแหล่งเรียนรู้ และแหล่งข้อมูลคุณภาพ บนโลกออนไลน์ของประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว จึงดำเนินการออกแบบกระบวนการและระบบด้วย Application ต่างๆของ G Suite for Education โดยกำหนดกระบวนการไว้ 2 ขั้นตอน
(1) นำความรู้ ข้อมูลหรือหลักสูตรจากพื้นที่หรือชุมชน มาสร้างเป็นเว็บกระจายย่อยไปทุกหน่วยงาน สถานศึกษา (กศน.ตำบล) พัฒนาเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ชุมชน (Knowledge Network Sites)
(2) นำลิงค์ความรู้จาก Sites ไปรวม(จัด)กลุ่มในระบบช่องทางแหล่งข้อมูลเรียนรู้ TKP (Thailand Knowledge Portal) หรือศูนย์ความรู้ประชาชนประจำจังหวัด เพื่อใช้เป็นช่องทางในการเผยแพร่และเข้าถึง
โดยเริ่มดำเนินการทดลองรูปแบบที่สำนักงาน กศน.จังหวัดน่าน (เมื่อวันที่ 19-23 กุมภาพันธ์ 2561) ภายใต้หลักการประสานความร่วมมือกับชุมชนนำข้อมูล ความรู้ที่เป็นจริง (เพื่อทดแทนข้อมูลหลอกลวง, ข้อมูลซ้ำซ้อน,ข้อมูลขาดไม่ครบ และข้อมูลคลาดเคลื่อน) พัฒนาเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ชุมชน ( Knowledge Network Sites) ส่งผ่านไปสู่ระบบช่องทางแหล่งข้อมูลเรียนรู้ TKP (Thailand Knowledge Portal) หรือศูนย์ความรู้ประชาชนประจำจังหวัด ซึ่ง TKP (Thailand Knowledge Portal) ถูกออกแบบให้เป็นระบบเครือข่ายระดับประเทศที่มีแกนกลางเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันทั้ง 77 จังหวัด รวมถึงหน่วยงาน สถานศึกษารูปแบบพิเศษต่างๆ ของสำนักงาน กศน.
ปัจจุบันมีหน่วยงาน สถานศึกษาสังกัดสำนักงาน กศน.ได้เข้าร่วมดำเนินการนำร่องและเข้าแผนในการพัฒนาแล้ว ดังนี้ (ข้อมูล ณ 29 พฤษภาคม 2561)
1.สำนักงาน กศน.จังหวัดน่าน (เมื่อวันที่ 19-23 กุมภาพันธ์ 2561)
มีข้อมูลในระบบที่เผยแพร่แล้ว 200 รายการ
2.กลุ่มศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 20 แห่งทั่วประเทศ (เมื่อวันที่ 2-5 เมษายน 2561)
มีข้อมูลในระบบที่เผยแพร่แล้ว 287 รายการ
3.สำนักงาน กศน.จังหวัดร้อยเอ็ด (เมื่อวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2561)
มีข้อมูลในระบบที่เผยแพร่แล้ว 205 รายการ
4.สถาบัน กศน.ภาคใต้ (ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2561)
5.สำนักงาน กศน.จังหวัดกาญจนบุรี (ระหว่างวันที่ 13-15 มิถุนายน 2561)
6.สำนักงาน กศน.จังหวัดลำปาง (ระหว่างวันที่ 25-28 มิถุนายน 2561)
7.สำนักงาน กศน.จังหวัดยะลา (ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2561)
8.สำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรปราการ (ระหว่างวันที่ 10-13 กรกฎาคม 2561)
9.สำนักงาน กศน.จังหวัดสิงห์บุรี (ระหว่างวันที่ 17-20 กรกฎาคม 2561)
10.สำนักงาน กศน.จังหวัดอุดรธานี (ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-3 ส.ค. 2561)
11.สำนักงาน กศน.จังหวัดลำพูน (ระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคม 2561)
12.สำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช (ระหว่างวันที่ 18-21 ธันวาคม 2561)
สรุป TKP : Thailand Knowledge Portal คือศูนย์รวมช่องทางข้อมูล หลักสูตร และแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ โครงสร้างของ TKP ออกแบบมาเพื่อรองรับ/สนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย
หลักการ
คน กศน. อยู่ในทุกชุมชน
ชุมชน มี องค์ความรู้
ความรู้ เป็นสิ่งล้ำค่า
เสริมความล้ำค่า โดยการเผยแพร่และแบ่งปัน
เผยแพร่และแบ่งปันคืองานสร้างสรรของ กศน.
ภายใต้เงื่อนไข
1.พัฒนาคน ให้สามารถสร้าง Content บนมาตรฐานเดียวกัน
2.ส่งเสริม สนับสนุนให้พัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง
3.แบ่งปัน(Share)องค์ความรู้
4.เผยแพร่ องค์ความรู้ / จัดการเรียนรู้ *
5.รวบรวม และบริหารจัดการองค์ความรู้ *
แผนพัฒนาขั้นต่อไปหลังจาก TKP มีความเข้มแข็ง นำไปสู่การสร้างฐานความรู้ พัฒนาคลังสื่อ คลังข้อมูลการเรียนรู้ที่มีความถูกต้อง อนาคตในอีกไม่นานโลกของสื่อข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือจะเกิดขึ้น และสิ่งนี้จะเป็นอีกมิติใหม่ของแหล่งข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ ที่มีคุณค่าต่อสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สร้างสรรและผ่านการรับรองโดยสำนักงาน กศน.
สุวัฒน์ ธรรมสุนทร
15 มิถุนายน 2562
PLAYER always draws on 0,1,2,3,4,5 until Banker has a pure 8 or 9. The object of the game is to come as close to the quantity nine as possible. Face cards and tens, or any mixture of cards totaling ten, depend as zero. The 점보카지노 ace is counted as one, the deuce is counted as two, and so on.
ReplyDelete